บทความคณิตศาสตร์ เรื่อง ลูกคิด
ลูกคิด (Abacus) เป็นเครื่องมือสำหรับใช้คำนวณ นับเป็นเครื่องคิดเลขยุคแรกๆ ของโลก ประกอบด้วยโครงสี่เหลี่ยม และมีแกนร้อยตัวลูกคิดกลมๆ สำหรับใช้นับเลข สามารถเลื่อนขึ้นลงได้ ลูกคิดแบบเชิงกลเช่นนี้มีด้วยกันหลายแบบ และหลายภูมิภาค เช่น บาบิโลน โรมัน จีน ญี่ปุ่น แต่ที่รู้จักกันดีคือลูกคิดแบบจีน ยังมีลูกคิดแบบที่ใช้ในจินตคณิต ซึ่งจะมีแถวบนเพียงลูกเดียวด้วย
การนับหลักของลูกคิดนั้น ว่าหลักใดเป็นหลักหน่วย หลักสิบ หลักร้อย หลักพัน หรืออื่นๆ มีวิธีนับเช่นเดียวกับการนับหลักจำนวนเลขตามวิธีเลขคณิตศาสตร์โดยทั่วไป โดยเลือกกำหนดให้แกนรางหลักสุดท้ายหรือ หลักขวาสุดเป็นหลักหน่วย และไล่หลักทางซ้ายมือไปเรื่อยๆ เป็น สิบ ร้อย พัน หมื่น แสน ล้าน สิบล้าน ฯลฯ หรือหากมีความชำนาญแล้ว สามารถกำหนดแกนรางตำแหน่งใดๆ เป็นหลักหน่วยก็ได้
· <-- แกนถัดไปทางซ้าย 1 แกนเป็นหลักสิบ
· <-- แกนถัดไปทางซ้าย 2 แกนเป็นหลักร้อย
· <-- แกนถัดไปทางซ้าย 3 แกนเป็นหลักพัน หรือกำหนดเป็นทศนิยม
· --> แกนถัดไปทางขวา 1 แกนเป็นทศนิยมตำแหน่งที่ 1
· --> แกนถัดไปทางขวา 2 แกนเป็นทศนิยมตำแหน่งที่ 2
คำที่ใช้ในการดีดลูกคิด
ให้ หมายความว่า เพิ่ม หรือ บวก
ทด หมายความว่า เพิ่มไปข้างหน้าทางซ้ายมือหนึ่งหลัก
ถอน หมายความว่า ลบออก หรือ หักออก
ยืมหมายความว่า ยืมจากทางซ้ายมือหนึ่งหลัก
วิธีใช้นิ้ว สำหรับลูกคิด
การใช้นิ้วในการดีดลูกคิดให้ถูกหลักและวิธี จะต้องใช้นิ้ว 3 นิ้วช่วยกัน คือ นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ และนิ้วกลาง ในขณะดีดลูกคิดไม่ควรให้ข้อศอกของมือที่ใช้ดีดลูกคิดแตะพื้นโต๊ะ การฝึกดีดลูกคิดให้ถูกหลักและวิธี จะทำให้คิดเลขได้คล่องแคล่ว เกิดความชำนาญและสามารถคิดเลขได้รวดเร็วไม่แพ้การใช้เครื่องคิดเลข
การใช้นิ้วทั้ง 3 ในการดีดลูกคิดจะแบ่งหน้าที่กัน ดังนี้
· นิ้วหัวแม่มือใช้สำหรับดีดลูกคิดตอนล่างขึ้น
· นิ้วชี้ ใช้สำหรับดีดลูกคิดตอนบนและตอนล่างลง และช่วยนิ้วหัวแม่มือจับลูกคิดตอนล่างขึ้น
· นิ้วกลางใช้สำหรับดีดลูกคิดตอนบนขึ้น
การหาค่าของลูกคิดในแต่ละเม็ด ซึ่ง เม็ดลูกคิด ตอนบน จะมีค่าเม็ดละ 5 หน่วย ตามหลักที่กำหนด คือ
การทำงานของนิ้วในการบวก กรณีที่นิ้วหัวแม่มือดันขึ้น นิ้วชี้ดันลงลง เช่น +8 สามารถทำไปพร้อมกันได้เลยทังนิ้วหัวแม่มือ และนิ้วชี้จะทำให้เร็วขึ้น
การทำงานของนิ้วในการลบ กรณีที่นิ้วหัวแม่มือดันลง นิ้วชี้ดันขึ้น เช่น -8 สามารถทำไปพร้อมกันได้เลยทั้งนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จะ ทำให้เร็วขึ้น
การคูณด้วยลูกคิด
ขั้นที่2 นำ 6ไปคูณ 7ได้ 42 (ตั้งแต่ 10 ขึ้นไป) ใส่ผลลัพธ์ทีหลักที่หนึ่งและ สอง ดัง รูป
ขั้นที่ 3 นำ 6 ไปคูณ 2 ได้ 12 (ตั้งแต่ 10 ขึ้นไป) ใส่ผลลัพธ์ที่หลักสอง และสาม แล้วนำไปบวกกับขั้นที่ 2 โดยการนำ 1 (จาก12) บวกกับ 2 (จาก42) จะเห็นว่าลูกปัดมีพอบวกจึงได้ 3 ในหลักที่สองและใส่ 2 (จาก12) ในหลักที่สาม ได้ผลลัพธ์ ดังรูป
ขั้นที่ 4 นำ 6 ไปคูณ 1 ได้ 6 (น้อยกว่า10) ใส่ในหลักที่สี่ (หากผลคูณ ตั้งแต่ 10 ขึ้นไป จะใส่ในหลักที่สาม และสี่) จะได้ผลลัพธ์ ดังรูป
2.การคูณใช้ตัวคูณทีละตัวเริ่มจากหลักแรก (ตัวซ้าย) คูณตัวตั้งทุกตัวผลคูณที่ได้ในแต่ละครั้งจะนำไปบวกเพิ่มทุกครั้ง จนหมดการคูณ
3. วิธีการคูณให้นำตัวคูณหลักแรก (ตัวซ้าย) ไปคูณหลักแรก (ซ้ายสุด) ของตัวตั้ง
3.1 หากผลคูณตั้งแต่สิบข้นไปให้ใส่ที่หลักแรกและสองของผลลัพธ์
3.2 หากผลคูณน้อยกว่าสิบให้นำไปใส่ที่หลักที่สองของผลลัพธ์
4. นำตัวคูณหลักแรกไปคูณหลักที่สองของตัวตั้ง
4.1 หากผลคูณตั้งแต่สิบขึ้นไปให้ใส่ที่หลักที่สองและสามของผลลัพธ์
4.2 หากผลคูณน้อยกว่าสิบให้นำไปใส่ที่สามของผลลัพธ์ แล้วนำไปบวกกับผลลัพธ์ที่ได้ในข้อ 2
5. นำตัวคูณหลักแรกไปคูณหลักต่อๆไปจนครบทุกหลักของตัวตั้งโดยทำในกระบวนการเดียวกัน
6. นำตัวคูณหลักที่สองไปคูณหลักแรกของตัวตั้งแล้วนำไปบวกกับผลลัพธ์ในข้อ 5 ด้วยกระบวนการเดียวกันกับการคูณในหลักแรกผลลัพธ์ ของตัวคูณหลักที่สองจะเริ่มใส่ หลักที่สองของผลลัพธ์ ดูตัวอย่างประกอบ
7. นำตัวคูณหลักอื่นๆ ทุกหลักการกระทำเช่นเดียวกับข้อ 6 8. ผลลัพธ์ สุดท้ายจะเป็นผลคูณที่ต้องการ ตัวอย่างการคูณด้วยเลขสองหลัก หาผลคูณของ 654 x 29 ให้ใช้ลูกคิดตามไปด้วย
ขั้นที่ 2 นำ 2 ไปคูณ 6 ได้ 12 (ตั้งแต่ 10 ขึ้นไป)ใส่ผลลัพธ์ที่หลักที่หนึ่ง และสอง ดังรูป
ขั้นที่ 3 นำ 2 ไปคูณ 5 ได้ 10 (ตั้งแต่ 10 ขึ้นไป)ใส่ผลลัพธ์หลักที่สอง และสาม แล้วนำไปบวกกับขั้นที่ 2 โดยการนำ 1 (จาก 10) บวกกับ 2 (จาก 12) จะเห็นว่าลูกปัดมีพอบวกจึงได้ 3 ในหลักที่สอง และใส่ 0 (จาก 10) ในหลักที่สาม ได้ผลลัพธ์ ดังรูป
ขั้นที่ 4 นำ 2 ไปคูณ 4 ได้ 8 (น้อยกว่า 10) ใส่ผลลัพธ์ที่หลักที่สี่ ดังรูป
ขั้นที่ 5 จะเห็นว่าในขั้นที่ 4 ตัวคูณหลักแรกคูณตัวตั้งครบทุกหลักแล้ว ต่อไปจึงนำ ตัวคูณหลักที่สอง คูณตัวตั้งทุกหลัก นำ 9 คูณ 6 ได้ 45 (ตั้งแต่ 10 ขึ้นไป) ใส่ผลลัพธ์ในหลักที่สอง และสาม รวมกับผลลัพธ์ในขั้นที่ 3 ได้ผลลัพธ์ ดังรูป
ขั้นที่ 6 นำ 9 คูณ 5 ได้ 45 (ตั้งแต่ 10 ขึ้นไป) ใส่ผลลัพธ์ในหลักที่สาม และสี่นำไปบวกกับผลลัพธ์ในขั้นที่ 5 ได้ผลลัพธ์ ดังรูป
ขั้นที่ 7 นำ 9 คูณ 4 ได้ 36 (ตั้งแต่ 10 ขึ้นไป) ใส่ในหลักที่สี่และห้า บวกกับผลลัพธ์ในขั้นที่ 6 จะได้ผลลัพธ์ ดังรูป
จะเห็นว่าตัวคูณ คูณตัวตั้งจนครบทุกหลักและครบกระบวนการคูณแล้วได้ผลลัพธ์ 18,966
5. การกระทำต่อไปจะต่อเนื่องเป็นลักษณะเดียวกัน จนกว่าจะได้ผลลัพธ์
สูตร -5
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 5 อยู่แล้วให้ลบออกได้เลย
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็มสิบ ให้ลบ 10 ออก 1 จำนวน แล้วนำจำนวน 5 ลงมาใส่แทน
สูตร -4
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 4 อยู่แล้วให้ลบออกได้เลย
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 5 อยู่แล้วให้ลบ 5 ออก แล้วนำจำนวน 1 ลงมาใส่แทน
สูตร -3
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 3 อยู่แล้วให้ลบออกได้เลย
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 4 อยู่แล้วให้ลบ 3 ออกได้เลย แล้วจะเหลือเพียง 1 จำนวน
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 5 อยู่แล้วให้ลบ 5 ออก แล้วนำจำนวน 2 ลงมาใส่แทน
สูตร -2
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 2 อยู่แล้วให้ลบออกได้เลย
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 3 อยู่แล้วให้ลบ 1 ออกได้เลย แล้วจะเหลือเพียง 2 จำนวน
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 4 อยู่แล้วให้ลบ 2 ออกได้เลย แล้วจะเหลือเพียง 2 จำนวน
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 5 อยู่แล้วให้ลบ 5 ออก แล้วนำจำนวน 3 ลงมาใส่แทน
สูตร -1
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 1 อยู่แล้วให้ลบออกได้เลย
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 2 อยู่แล้วให้ลบ 1 ออกได้เลย แล้วจะเหลือเพียง 1 จำนวน
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 3 อยู่แล้วให้ลบ 2 ออกได้เลย แล้วจะเหลือเพียง 1 จำนวน
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 2 อยู่แล้วให้ลบ 1 ออกได้เลย แล้วจะเหลือเพียง 1 จำนวน
- ในโอกาที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 5 อยู่แล้วให้ลบ 5 ออก แล้วนำจำนวน 4 ลงมาใส่แทน
สูตรการบวกโดยลูกคิด
สูตร +5
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 10 อยู่แล้วให้เติมจำนวนเต็ม 5 ลงไปเลย
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็มสิบและห้า ให้ลบ 5 ออก แล้วนำจำนวน 10 ลงมาใส่แทน
สูตร +4
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 10 อยู่แล้วให้เติมจำนวนเต็ม 4 ลงไปเลย
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็มสิบหรือห้า ให้เอาจำนวน 4 ลงมาใส่แทน
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 4 อยู่แล้วให้ลบ 1 ออก แล้วเติมจำนวน 5 ลงไป
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 3 อยู่แล้วให้ลบ 1 ออก แล้วเติมจำนวน 5 ลงไป
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 2 อยู่แล้วให้ลบ 1 ออก แล้วเติมจำนวน 5 ลงไป
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 1 อยู่แล้วให้ลบ 1 ออก แล้วเติมจำนวน 5 ลงไป
สูตร +3
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 10 อยู่แล้วให้เติมจำนวนเต็ม 3 ลงไปเลย
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็มสิบหรือห้า ให้เอาจำนวน 3 ลงมาใส่แทน
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 4 อยู่แล้วให้ลบ 2 ออก แล้วเติมจำนวน 5 ลงไป
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 3 อยู่แล้วให้ลบ 2 ออก แล้วเติมจำนวน 5 ลงไป
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 2 อยู่แล้วให้ลบ 2 ออก แล้วเติมจำนวน 5 ลงไป
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 1 อยู่แล้วให้ลบ 1 ออก แล้วเติมจำนวน 5 ลงไป
สูตร +2
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 10 อยู่แล้วให้เติมจำนวนเต็ม 2 ลงไปเลย
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็มสิบหรือห้า ให้เอาจำนวน 2 ลงมาใส่แทน
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 4 อยู่แล้วให้ลบ 3 ออก แล้วเติมจำนวน 5 ลงไป
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 3 อยู่แล้วให้ลบ 3 ออก แล้วเติมจำนวน 5 ลงไป
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 2 อยู่แล้วให้เติมจำนวน 2 ลงไป
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 1 อยู่แล้วให้เติมจำนวน 2 ลงไป
สูตร +1
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 10 อยู่แล้วให้เติมจำนวนเต็ม 1 ลงไปเลย
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็มสิบหรือห้า ให้เอาจำนวน 1 ลงมาใส่แทน
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 4 อยู่แล้วให้ลบ 4 ออก แล้วเติมจำนวน 5 ลงไป
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 3 อยู่แล้วให้เติมจำนวน 1 ลงไป
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 2 อยู่แล้วให้เติมจำนวน 1 ลงไป
- ในโอกาสที่ในลูกคิดมีจำนวนเต็ม 1 อยู่แล้วให้เติมจำนวน 1 ลงไป
www.nujiw.com/math_soroban.aspx
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น